ชี้แจงต่อศาลแปะ “โพสต์อิท” เรียกร้องทางการเมือง ไม่เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ความสะอาดฯ

คดีโพสต์อิท
(จากซ้าย)อานนท์ นำภา ฐิตารีย์ อุทยานุกูลศิริกุล

แกนนำกลุ่มพลเมืองโต้กลับชี้แจงต่อศาล แปะโพสต์อิทเป็นการเรียกร้องทางการเมือง ไม่เข้าข่ายเป็นกิจกรรมที่ทำให้เกิดความสกปรกตาม พ.ร.บ.ความสะอาดฯ  ด้านจำเลยย้ำเมื่อแปะโพสต์อิทก็ตั้งใจจะเอาออกแต่ถูกจับกุมตัวไปเสียก่อน ส่วนพยานโจทก์ยืนยันได้แจ้งต่อประชาชนที่มาร่วมกิจกรรมให้หยุดกิจกรรมดังกล่าวเพราะอาจมีความผิด ตาม พ.ร.บ. ความสะอาด แต่จำเลยยังไม่หยุดการกระทำดังกล่าว

จากกรณีที่ฐิตารีย์ อุทยานุกูลศิริกุลถูกพนักงานอัยการ สำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีแขวง 4 มีความเห็นสั่งฟ้องมีความผิดตามมาตรา 10 พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ.2535 เหตุเพราะ เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 1 พฤษภาคม 2559 ฐิตารีย์ร่วมทำกิจกรรมโพสต์-สิทธิ กับกลุ่มพลเมืองโต้กลับที่บริเวณทางเดิน “สกายวอล์ค สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสช่องนนทรีเพื่อเรียกร้องให้ประชาชนต้องมีเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและเรียกร้องให้ปล่อยตัวแอดมินเพจเรารักพล.อ.ประยุทธทั้งแปดคนที่ถูกควบคุมตัวโดยเจ้าหน้าที่ทหาร

วานนี้ (10 พ.ย.59) ที่ศาลแขวงพระนครใต้ มีสืบพยานจำเลย นายอานนท์ นำภา พยานในคดีนี้ ในฐานะสมาชิกกลุ่มพลเมืองโต้กลับและเป็นผู้จัดกิจกรรมดังกล่าวชี้แจงต่อศาลว่า กิจกรรมโพสต์สิทธิเป็นกิจกรรมที่ใช้คำหยอกล้อคำว่า โพสต์อิท รูปแบบกิจกรรมคือ การเขียนข้อความใส่กระดาษโพสท์อิท มีเนื้อหาเกี่ยวกับการเรียกร้องสิทธิ เสรีภาพและเรียกร้องให้รัฐบาลทหารหรือ คสช. ปล่อยตัวนักกิจกรรมทั้ง 8 คน ดังนั้นรูปแบบกิจกรรมของเนื้องานจึงไม่มีลักษณะเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.รักษาความสะอาดแต่อย่างใด อีกทั้งเคยจัดทำกิจกรรมลักษณะดังกล่าวบริเวณทางเดินสกายวอร์คหน้าหอศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพ ปทุมวันมาแล้วครั้งหนึ่งแต่ก็ไม่ถูกดำเนินคดีใด ๆ เพราะหลังเสร็จกิจกรรมประชาชนที่มาร่วมก็ดึงกระดาษโพสต์อิทออกจากตำแหน่งที่แปะไว้

“เหตุที่ใช้กระดาษโพสต์อิทเขียนข้อความแล้วแปะไว้บริเวณเสาและทางเดินก็เพราะเมื่อแปะแล้วก็สามารถดึงออกได้ง่าย ไม่สกปรก แล้วก็เลือกแปะที่ใดที่หนึ่งเท่านั้น ข้อความก็ไม่เกี่ยวข้องกับการโฆษณาตามที่ระบุไว้ใน พ.ร.บ.รักษาความสะอาดแต่อย่างใด จึงไม่ได้ขออนุญาตเจ้าหน้าที่จัดกิจกรรมตาม พ.ร.บ. รักษาความสะอาดเพราะเป็นกิจกรรมทางการเมืองแล้วได้ทำหนังสือแจ้งตาม พ.ร.บ.ชุมนุมไว้ก่อนแล้ว” อานนท์กล่าว

ด้านฐิตารีย์ อุทยานุกูลศิริ จำเลยในคดีนี้ชี้แจงต่อศาลว่า เคยเข้าร่วมกิจกรรมลักษณะนี้ที่กลุ่มพลเมืองโต้กลับเคยจัดมาแล้ว ณ ทางเดินสกายวอร์ค หอศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพ ปทุมวัน และไม่เคยถูกเจ้าหน้าที่มาเชิญตัวเพื่อแจ้งข้อกล่าวหา ส่วนในวันเกิดเหตุก็มาร่วมงานเพื่อแสดงออกตามสิทธิ เสรีภาพที่รัฐธรรมนูญรับรองไว้ แล้วก็ตั้งใจว่า เมื่อแปะกระดาษโพสต์อิทลงบทเสาตรงทางเดินสกายวอร์คแล้ว เมื่อกิจกรรมเสร็จสิ้นก็จะดึงกระดาษโพสต์อิทออกแล้วเก็บไว้เป็นที่ระลึก “เคยมาร่วมกิจกรรมดังกล่าวตามที่ตั้งใจไว้ และก็ทำแบบนี้ทุกครั้ง แต่ในวันเกิดเหตุกลับถูกเจ้าหน้าที่เชิญตัวมาที่สถานีตำรวจนครบาลทุ่งมหาเมฆเพื่อมาแจ้งข้อกล่าวหาเสียก่อน” จำเลยในคดีกล่าวและว่า ไม่ได้ขออนุญาตตาม พ.ร.บ.รักษาความสะอาด เพราะคิดว่าทางผู้จัดงานได้ขอไว้แล้วตาม พ.ร.บ.การชุมนุมฯ ดังนั้นจึงไม่คิดว่าจะถูกดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.รักษาความสะอาด

ส่วนเมื่อวันที่ 9 พ.ย. 2559 ก็มีการสืบพยานโจทก์ในคดีดังกล่าว  ร.ต.อ.บุญทัน ศรีสุภานนท์ เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจนครบาลทุ่งมหาเมฆ พยานโจทก์ ในฐานะเจ้าหน้าที่ผู้เชิญตัวจำเลยมายังสน.ทุ่งมหาเมฆ ชี้แจงต่อศาลว่า ขณะเกิดเหตุได้รับมอบหมายจาก พล.ต.ต.สมประสงค์ เย็นท้วม  ผู้บัญชาการกองบังคับการตำรวจนครบาล 5 ให้ไปดูแลความสงบเรียบร้อยในกิจกรรมดังกล่าว ต่อมาเมื่อกิจกรรมดำเนินไปได้สักระยะหนึ่ง มีประชาชนมาร่วมงานบางส่วนแปะกระดาษโพสต์อิทบริเวณเสาและทางเดินของทางเชื่อมสกายวอร์คผู้บังคับบัญชาก็ประกาศแก่ผู้ชุมนุมด้วยปากเปล่าให้หยุดกิจจกรมดังกล่าวเพราะสร้างความสกปรกให้แก่พื้นที่ ซึ่งอาจมีประชาชนบางส่วนได้ยินและไม่ได้ยิน และไม่แน่ใจว่า จำเลยในคดีนี้ได้ยินคำสั่งหรือไม่ แต่คิดว่าได้ยินเพราะจำเลยยืนอยู่ไม่ไกลจากตัวเอง เมื่อเห็นว่า น่าจะได้ยินคำสั่งแต่ยังไม่หยุดแปะกระดาษโพสต์อิท จึงใช้อำนาจ ตาม พ.ร.บ.รักษาความสะอาดเชิญตัวจำเลยไปยังสน.ทุ่งมหาเมฆเพื่อให้พนักงานสืบสวนแจ้งข้อกล่าวหา

ด้าน ร.ต.ท.เจษฎาพร วรรณโคตร พนักงานสืบสวนสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลทุ่งมหาเมฆ ในฐานะผู้ทำบันทึกการจับกุมชี้แจงต่อศาลว่า จำเลยในคดีนี้ถูกเชิญตัวมาพร้อมกับหลักฐานคือ กระดาษโพสต์อิทสีชมพู 2 แผ่น แต่จำเลยปฎิเสธว่า กระดาษโพสต์อิททั้งสองแผ่นนั้นไม่ใช่ของตัวเองเพราะกระดาษที่จำเลยแปะนั้นเป็นสีเหลือง จำเลยจึงไม่ได้ลงลายมือชื่อในบัญชีพยาน

ทั้งนี้ศาลแขวงพระนครใต้นัดฟังคำพิพากษาวันที่ 27 ธันวาคม พ.ศ.2559 เวลา 13:00 น.

สำหรับเนื้อหา พ.ร.บ.รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ.2535 อ่านได้ที่นี้

X