แถลงการณ์ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ขอให้ยุติการคุกคามการใช้สิทธิในเสรีภาพการชุมนุมและการแสดงความคิดเห็นกรณีโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่

แถลงการณ์ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ขอให้ยุติการคุกคามการใช้สิทธิในเสรีภาพการชุมนุมและการแสดงความคิดเห็นกรณีโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่

แถลงการณ์ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน
ขอให้ยุติการคุกคามการใช้สิทธิในเสรีภาพการชุมนุมและการแสดงความคิดเห็นกรณีโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่

ตามที่ประชาชนผู้คัดค้านโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ได้ชุมนุมเพื่อคัดค้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่บริเวณทำเนียบรัฐบาล ตั้งแต่วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2560 ที่ผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่ได้เข้าควบคุมพื้นที่ นำรถสุขาออกจากพื้นที่ ไม่ให้ประชาชนเข้าออกพื้นที่ชุมนุม ทำให้ผู้ชุมนุมไม่สามารถเข้าถึงอาหาร

เจ้าหน้าที่ยังได้ยื่นคำร้องต่อศาลแพ่งขอให้มีคำสั่งยกเลิกการชุมนุมสาธารณะ ซึ่งศาลนัดไต่สวนคำร้องในวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2560 แต่ระหว่างการรอไต่สวนปรากฎว่าในช่วงเช้าวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2560 เจ้าหน้าที่รัฐได้ควบคุมตัวนายประสิทธิชัย หนูนวล ม.ล.รุ่งคุณ กิติยากร นายอัครเดช ฉากจินดา นายบรรจง นะแส และนายธัชพงษ์ แกดำ ไปยังพื้นที่มณฑลทหารบกที่ 11 ซึ่งเป็นการใช้อำนาจตามคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 3/2558 รวมถึงควบคุมตัวผู้ชุมนุมอีก 11 คน ไปที่กองกำกับการสายตรวจ 191 นั้น

ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนเห็นว่า นอกจากเจ้าหน้าที่จะไม่ได้ปฏิบัติตามหน้าที่ในมาตรา 19 (3) พระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.2558 ซึ่งกำหนดให้เจ้าพนักงานดูแลการชุมนุมสาธารณะรักษาความปลอดภัยหรืออํานวยความสะดวกแก่ผู้ชุมนุมในสถานที่ชุมนุม

ระหว่างรอศาลแพ่งไต่สวนคำร้องขอให้เลิกการชุมนุม กลับมีการควบคุมผู้ชุมนุมเข้าค่ายทหาร อันเป็นการใช้อำนาจตามคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 3/2558 อีกชั้นหนึ่ง การกระทำดังกล่าวของเจ้าหน้าที่รัฐจึงเข้าข่ายการคุกคามการใช้เสรีภาพการชุมนุม ซึ่งเป็นการชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธ และยังขัดต่อพันธกรณีข้อ 21 ของกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง (ICCPR) ที่รับรองเสรีภาพการชุมนุมโดยสงบไว้ ทั้งยังกระทำการเกินกว่ากฎหมายให้อำนาจในการตัดขาดการเข้าถึงอาหารและสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานของผู้ชุมนุม

นอกจากนี้ ในช่วงประมาณ 2 ชั่วโมงแรกของการควบคุมตัวบุคคลทั้งสามนั้นเจ้าหน้าที่ไม่ได้แจ้งว่าผู้ชุมนุมถูกควบคุมตัวไปไว้ในสถานที่ใดและปฏิเสธการเข้าถึงของทนายความ การควบคุมตัวพลเรือนเข้าไปยังพื้นที่ทหารตามคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 3/2558 ซึ่งให้อำนาจเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวได้สูงสุดถึง 7 วันโดยไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหาในลักษณะนี้ เป็นการควบคุมตัวไม่ชอบตาม ข้อ 9 ของกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมืองซึ่งประเทศไทยเป็นภาคีและมีพันธกรณีต้องปฏิบัติตามอีกด้วย

ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนจึงขอเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องปล่อยตัวผู้ชุมนุมซึ่งถูกควบคุมตัวไปในทันที พร้อมทั้งเคารพสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกของประชาชน อันเป็นสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานและเป็นวิถีทางแห่งประชาธิปไตย

ด้วยความเคารพต่อสิทธิเสรีภาพของประชาชน
ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน

X