เผยทีมงานอนาคตใหม่เพชรบูรณ์ถูกติดตามหนัก ช่วงกิจกรรมวิ่งไล่ลุง ทั้งที่ไม่ได้จัดวิ่ง

4 ก.พ. 63 ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนได้รับเรื่องร้องเรียนจากทีมงานของพรรคอนาคตใหม่ในจังหวัดเพชรบูรณ์ ว่าในช่วงกิจกรรม “วิ่งไล่ลุง” เมื่อเดือนม.ค.ที่ผ่านมา ทั้งทีมงานของพรรคและอดีตผู้สมัคร ส.ส. ของพรรค ได้ถูกเจ้าหน้าที่รัฐเข้าติดตามอย่างต่อเนื่องหลายคน เพื่อสอบถามเรื่องกิจกรรม ทั้งที่ในจังหวัดเพชรบูรณ์ไม่ได้มีการจัดวิ่งแต่อย่างใด

การติดตามคุกคามทีมงานของพรรคดังกล่าว เริ่มเข้มข้นตั้งแต่ปลายเดือนธันวาคม 2562 เมื่อน.ส.พรรณิการ์ วานิช ส.ส.บัญชีรายชื่อและโฆษกของพรรคอนาคตใหม่ ได้เดินทางมาลงพื้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์ในช่วงวันที่ 28 ธ.ค. 62 โดยมีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบหลายสิบนายได้เข้าติดตามการลงพื้นที่ของน.ส.พรรณิการ์ และยังมีการโทรศัพท์เข้ากดดันผู้นำชุมชน พยายามสอบถามว่าทำไมให้พรรคอนาคตใหม่เข้าพื้นที่ โดยอ้างว่าทางพรรคจะเข้ามายุยงปลุกปั่น

นอกจากนั้น ทีมงานพรรคยังเปิดเผยว่าในช่วงดังกล่าว สมาชิกในเครือข่ายชาติพันธุ์ม้งได้ถูกเจ้าหน้าที่ทหารซึ่งอ้างว่ามาจากกองทัพภาคที่ 3 ไปพบถึงบ้าน เพื่อสอบถามข้อมูลการลงพื้นที่ของโฆษกพรรคด้วย

ขณะที่นายนิพนธ์ วานิชสมบัติ อดีตผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคอนาคตใหม่ ระบุว่าได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาลมาที่บ้านในช่วงดังกล่าวเช่นกัน โดยอ้างว่า “นาย” สั่งให้มาสอบถามข้อมูลกิจกรรม โดยสอบถามว่าน.ส.พรรณิการ์จะลงพื้นที่ที่ไหนอย่างไรบ้าง และจะสามารถติดต่อเธอได้อย่างไร เจ้าหน้าที่ยังมีการขอถ่ายบัตรประชาชน และถ่ายรูปเขาไปด้วย

ภาพกิจกรรมวิ่งเพื่อประชาธิปไตย ของพรรคอนาคตใหม่เพชรบูรณ์ ที่เคยจัดขึ้นเมื่อวันที่ 1 ธ.ค. 62 (ภาพจากเพจอนาคตใหม่เพชรบูรณ์)

ต่อมา ในช่วงเดือนมกราคม 2563 ก่อนหน้ากิจกรรมวิ่งไล่ลุง ทีมงานของพรรคอย่างน้อย 5 คน ได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางไปพบที่บ้าน ถูกติดตามถ่ายรูป หรือถูกโทรศัพท์เข้าสอบถามข้อมูล ทั้งที่ไม่ได้มีการจัดวิ่งไล่ลุงในพื้นที่เพชรบูรณ์แต่อย่างใด

นายหลุย บุญสะอาด อดีตผู้สมัคร ส.ส. ของพรรคอนาคตใหม่ ได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบใส่เสื้อยืดและกางเกงขาสั้น 1 นาย เข้ามาถ่ายรูปรอบบริเวณบ้านโดยไม่ได้รับอนุญาต และไม่พูดคุยกับคนในบ้าน เมื่อมีคนเข้าไปสอบถามก็อ้างว่าเป็นฝ่ายความมั่นคงเมืองเพชรบูรณ์ ยศร้อยตำรวจเอก แต่ไม่แจ้งว่าจะถ่ายรูปไปทำอะไร

ส่วนนายนิพนธ์ วานิชสมบัติ ระบุว่าได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบ 5-6 นาย ทั้งหญิงและชาย มาพบตนที่บ้าน อ้างว่าทางตำรวจสันติบาลรายงานว่าจะมีการ “ก่อม็อบ” จึงได้มาสอบถามว่าจะมีกิจกรรมวิ่งไล่ลุงหรือไม่ หรือจะไปร่วมที่ไหนหรือไม่ ซึ่งเขาปฏิเสธว่าไม่ได้มีกิจกรรม นายนิพนธ์ยังสอบถามเจ้าหน้าที่ด้วยว่าได้รับคำสั่งให้มาติดตามผู้สมัครของพรรคอื่นๆ ด้วยหรือไม่ เจ้าหน้าที่กล่าวว่าไม่มี มีแต่ทีมของพรรคอนาคตใหม่เท่านั้น และยังระบุขอความร่วมมือว่าถ้ามีกิจกรรมอะไร ก็จะมาสอบถามข้อมูลอีก แต่ไม่ได้มีการกล่าวถ้อยคำในลักษณะข่มขู่คุกคาม

นิพนธ์ระบุว่าการถูกเจ้าหน้าที่มาหาที่บ้าน ทำให้เพื่อนบ้านสงสัยว่าตนหรือคนในครอบครัวทำอะไรผิดหรือไม่ เนื่องจากเห็นรถตำรวจจอดอยู่หน้าบ้านบ่อย นอกจากนั้น เขายังถูกเจ้าหน้าที่สันติบาลโทรศัพท์สอบถามเรื่องการทำกิจกรรมเป็นระยะๆ ด้วย

ทีมงานของพรรคที่ประกอบอาชีพครูในจังหวัด ยังได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจประมาณ 3-4 นาย เดินทางไปพบถึงที่โรงเรียน โดยมีการเตือนว่าไม่อยากให้ไปร่วมกิจกรรมวิ่งไล่ลุง เช่นเดียวกับทีมงานของพรรคในจังหวัดเพชรบูรณ์อีกรายหนึ่ง ได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจโทรศัพท์ติดต่อมาที่เบอร์ส่วนตัว 2-3 วันต่อหนึ่งครั้ง เพื่อสอบถามเป็นระยะว่าจะมีงานวิ่งไล่ลุงหรือไม่ และสอบถามความเคลื่อนไหวว่าวันนี้เขาทำอะไรที่ไหน เมื่อระบุว่าไม่ได้มีการจัดกิจกรรม ทางตำรวจก็ยังโทรมาถามเป็นระยะอีกว่าจะไปร่วมกิจกรรมวิ่งไล่ลุงที่ส่วนกลางหรือไม่ มีใครไปบ้าง ไปกี่คน เป็นต้น

รวมทั้งทีมงานของพรรคที่ทำงานกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอีกรายหนึ่ง ยังได้ถูกหัวหน้าที่ทำงานเรียกตัวไปพูดคุยก่อนกิจกรรมวิ่งไล่ลุง พร้อมแจ้งว่ามีผู้รายงานเรื่องการไปทำกิจกรรมทางการเมืองของเขา แม้จะไม่ใช่ในเวลาราชการก็ตาม หัวหน้างานได้เตือนว่าไม่อยากให้ไปยุ่งเกี่ยวกับกิจกรรมทางการเมืองอีก

ทีมงานของพรรคอนาคตใหม่เพชรบูรณ์ระบุว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้สมาชิกของพรรคเกิดความกังวล เพราะหลายคนไม่เคยถูกติดตามคุกคามมาก่อน ทำให้ในเดือนกุมภาพันธ์นี้ ที่ประชุมของสำนักงานพรรคไม่ได้มีการกิจกรรมทางการเมืองสาธารณะ ทั้งที่มีผู้เสนอกิจกรรม ทั้งเรื่องการวิ่งเพื่อประชาธิปไตย การเดินรณรงค์เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ หรือการจัดเวทีเสวนาปัญหาในพื้นที่ เนื่องจากเกิดความกังวลและไม่แน่ใจต่อการจัดกิจกรรมสาธารณะขึ้น ทั้งที่ก่อนหน้านั้นก็สามารถจัดกิจกรรมลักษณะนี้ได้

ทางทีมงานจึงอยากเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่รัฐ ทั้งทางทหารและตำรวจ เคารพในสิทธิเสรีภาพในการแสดงออก และเลิกติดตามคุกคามในลักษณะต่างๆ ดังกล่าว

อ่านสถานการณ์การปิดกั้นเสรีภาพการแสดงออกของประชาชนจากกิจกรรมวิ่งไล่ลุง ได้ในรายงาน การออกวิ่งที่เต็มไปด้วยขวากหนาม: ภาพรวมการปิดกั้นสิทธิเสรีภาพในกิจกรรม #วิ่งไล่ลุง ทั่วไทย