เปิดคำสั่งศาลถอนประกัน ‘อานนท์’ – เพิ่มเงื่อนไข ‘ไมค์’ แต่ทั้งคู่ปฏิเสธไม่ประกันอีก

3 ก.ย. 63 ศาลอาญา รัชดาฯ นัดไต่สวนกรณีพนักงานสอบสวน สน.สำราญราษฎร์ ยื่นคำร้องขอเพิกถอนการปล่อยชั่วคราวในคดี #เยาวชนปลดแอก ของอานนท์ นำภา และ “ไมค์” ภาณุพงศ์ จาดนอก

มูลเหตุของการนัดหมายในครั้งนี้สืบเนื่องจากการเข้าจับกุมทั้งสองคน เมื่อวันที่ 7 – 8 ส.ค. 2563 จากคดีเข้าร่วมชุมนุมกับกลุ่มเยาวชนปลดแอกเมื่อวันที่ 18 ก.ค. 63 ก่อนที่ในกระบวนการฝากขังระหว่างการสอบสวน ศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ประกันตัว โดยกำหนดเงื่อนไขว่า “ห้ามกระทำการใด ๆ ในลักษณะเดียวกับคดีนี้อีก มิฉะนั้นจะให้ถือว่าผิดสัญญาประกัน” 

(ภาพกิจกรรมการชุมนุม #ธรรมศาสตร์จะไม่ทน 10 ส.ค. 63)

หลังจากอานนท์ยังคงเดินสายไปปราศรัยต่อตามกำหนดการที่วางไว้ก่อนถูกจับกุม โดยไปปราศรัยที่การชุมนุม #เชียงใหม่จะไม่ทน ที่จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 9 ส.ค. 63 และทั้งสองคนในการชุมนุม #ธรรมศาสตร์จะไม่ทน เมื่อวันที่ 10 ส.ค. 63 เป็นเหตุให้ พ.ต.ท.หญิงจิตติมา ธงไชย พนักงานสอบสวน เข้ายื่นคำร้องขอเพิกถอนการปล่อยชั่วคราวต่อศาลอาญา

>> “ถ้าศาลถอนประกัน ผมคงไปอยู่ในคุก”ติดตามศาลไต่สวนถอนประกัน ไมค์-อานนท์ 3 ก.ย.นี้

>> เปิดคำร้องคัดค้านยื่นถอนประกันชั่วคราว อานนท์ – ไมค์: ดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่รัฐต้องไม่ถูกใช้เพื่อปิดกั้นสิทธิประชาชน 

ภายหลังจากกระบวนการไต่สวนในช่วงเช้าวันนี้ โดยมีการพิจารณาเป็นสองสำนวนระหว่างสำนวนของอานนท์ และภาณุพงศ์ พร้อมแยกการไต่สวนคนละห้องพิจารณา โดยในทั้งสองห้อง ศาลไต่สวนพยานผู้ร้องขอถอนประกัน ได้แก่ พนักงานสอบสวนสน.สำราญราษฎร์ 1 ปาก และพยานผู้คัดค้าน 1 ปาก คืออานนท์และภาณุพงศ์ ศาลในทั้งสองบัลลังก์ได้นัดอ่านคำสั่งในเวลาประมาณ 15.00 น. 

 

ศาลชี้ ‘ไมค์’ ผิดเงื่อนไขประกันตัว แต่ให้เพิ่มวงเงินประกัน-รายงานตัวทุก 15 วัน

 

(รูปภาพจาก iLaw)

เวลาประมาณ 16.25 น. ศาลได้ขึ้นอ่านคำสั่งในส่วนกรณีของภาณุพงศ์ จาดนอก ผู้พิพากษาในบัลลังก์ ได้แก่ นายชัยศักดิ์ คงฤทธิ์ และนางยุคิน เทพหนู

ศาลอ่านคำสั่ง โดยพิเคราะห์พยานหลักฐานในการไต่สวนคําร้องและคําคัดค้านของทนายความผู้ต้องหาแล้ว เห็นว่าบทบัญญัติเรื่องการปล่อยตัวชั่วคราวตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 108 วรรคท้าย นอกจากศาลมีอํานาจพิจารณาอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวต้องหาได้แล้ว ศาลอาจใช้ดุลพินิจวางข้อกําหนดเงื่อนไขใดให้ผู้ถูกปล่อยชั่วคราวปฏิบัติก็ได้  ทั้งนี้เพื่อป้องกันภัยอันตรายหรือความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากการปล่อยตัวชั่วคราวนั้น 

ในวันที่ 8 สิงหาคม 2563 ผู้ต้องหาได้รับอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวโดยมีเงื่อนไขว่าห้ามกระทําการใดๆ ในลักษณะเดียวกันกับการกระทําที่ถูกกล่าวหาในคดีนี้อีก มิฉะนั้นถือว่าผิดสัญญาประกัน 

แต่ในวันที่ 10 สิงหาคม 2563 ผู้ต้องหากลับขึ้นปราศรัยต่อผู้ชุมนุมที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต โดยปรากฏจากพยานหลักฐานของผู้ร้อง โดยที่ผู้คัดค้านไม่มีพยานหลักฐานใดมาแสดงต่อศาลให้เห็นว่าข้อความที่ปรากฏตามคําถอดเทปของผู้ร้องไม่ถูกต้องตรงกับข้อความที่ผู้ต้องหาพูดในที่เกิดเหตุ เพราะผู้ต้องหาก็รับว่าตามวันเวลาและสถานที่ตามคําร้อง ผู้ต้องหาได้พูดปราศรัยจริง เพียงแต่จําข้อความที่ตนเองพูดไม่ได้ 

เมื่อพิจารณาประกอบกับพนักงานสอบสวนสถานีตํารวจภูธรคลองหลวงนําเหตุแห่งการปราศรัยของผู้ต้องหาในคดีนี้ไปขอหมายจับที่ศาลจังหวัดธัญบุรี จนกระทั่งศาลจังหวัดธัญบุรีได้ออกหมายจับผู้ต้องหาในคดีนี้ ตามหมายจับที่ จ.324/2563 ลงวันที่ 14 สิงหาคม 2563 โดยมีข้อหาเช่นเดียวกับที่ผู้ร้องกล่าวอ้างเป็นเหตุให้เพิกถอนสัญญาประกัน ปรากฏตามเอกสารเพิ่มเติมคําร้องขอให้ศาลเพิกถอนการปล่อยตัวชั่วคราวผู้ต้องหาฉบับลงวันที่วันนี้ จึงเพียงพอและน่าเชื่อว่าผู้ต้องหาได้ขึ้นปราศรัยโดยมีข้อความตามที่ปรากฏในบันทึกถอดเทปคําปราศรัยกลุ่มผู้ชุมนุม 

เอกสารท้ายคําร้องขอให้ศาลเพิกถอนการปล่อยตัวชั่วคราวผู้ต้องหา โดยมีลักษณะเป็นการกระทําให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา อันมิใช่เป็นการกระทําภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญหรือมิใช่เพื่อการแสดงความคิดเห็นหรือติชมโดยสุจริต เพื่อให้เกิดความปั่นป่วนหรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชนถึงขนาดที่จะก่อความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักร เพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน อันมีลักษณะเป็นการกระทําเดียวกันกับการกระทําที่ศาลพิจารณาออกหมายจับ และเป็นการกระทําที่ผู้ต้องหาถูกกล่าวหาในคดีนี้ เป็นการผิดเงื่อนไขตามสัญญาประกันจึงถือว่าผิดสัญญาประกัน 

แต่เมื่อพิเคราะห์ถึงอายุ อาชีพ และพฤติกาณ์แห่งการกระทําที่ถูกกล่าวหาให้เพิกถอนการปล่อยชั่วคราว ยังไม่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่การสอบสวนหรือการดําเนินคดี สมควรให้โอกาสแก่ผู้ต้องหาสักครั้งหนึ่ง แต่มีเงื่อนไขโดยให้มีประกันในวงเงินเพิ่มเป็น 200,000 บาท และให้ผู้ต้องหามารายงานตัวต่อศาลทุก 15 วันนับแต่วันนี้ หากผู้ต้องหาไม่ดําเนินการตามคําสั่งในวันนี้ ให้เพิกถอนการปล่อยชั่วคราว และรับตัวไว้ หมายขัง

 

ศาลเพิกถอนประกัน “อานนท์” อ้างผิดเงื่อนไขปล่อยตัว 

 

(ภาพอานนท์ก่อนเข้าฟังไต่สวนเพิกถอนประกัน จาก Banrasdr Photo)

ขณะเดียวกัน เวลาประมาณ 16.25 น. ในส่วนกรณีของอานนท์ นำภา ผู้พิพากษาในบัลลังก์ ได้แก่ นายจุมพล รัตธนภาส นายชัยชะรัตน์ ชูแก้ว และนางสาววีร์ธิชา ตั้งรัตนาวลี ได้อ่านคำสั่งหลังการไต่สวนในช่วงเช้า

ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานในชั้นไต่สวนคําร้องและคําคัดค้านขอเพิกถอนการปล่อยชั่วคราวแล้ว ได้ความจากผู้ร้องและผู้คัดค้านเป็นพยานเบิกความไม่โต้แย้งกัน ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2563 ผู้ต้องหาร่วมกิจกรรมชุมนุมเชียงใหม่ #คณะประชาชนปลดแอก และกล่าวปราศรัยตามบันทึกถอดเทปคําปราศรัยกลุ่มผู้ชุมนุม

และเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2563 ผู้ต้องหาร่วมกิจกรรมชุมนุมธรรมศาสตร์จะไม่ทน และกล่าวปราศรัยตามบันทึกถอดเทปคําปราศรัยกลุ่มผู้ชุมนุม 

คณะพนักงานสืบสวนสอบสวนตํารวจภูธรจังหวัดปทุมธานีได้รับอนุมัติหมายจับผู้ต้องหา เนื่องจากผู้ต้องหาร่วมกิจกรรมชุมนุมธรรมศาสตร์จะไม่ทน และกล่าวปราศรัย ตามหมายจับที่ จ.325/2563 ของศาลจังหวัดธัญบุรี 

เห็นว่าเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2563 ศาลมีคําสั่งอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหา โดยมีเงื่อนไขห้ามกระทําการใดๆ ในลักษณะเดียวกับการกระทําที่ถูกกล่าวหาในคดีนี้อีก เมื่อผู้ต้องหาเป็นบุคคลคนเดียวกับผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดธัญบุรี โดยมีข้อกล่าวหาว่าร่วมกันกระทําให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือ หรือวิธีอื่นใดอันมิใช่เป็นการกระทําภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ หรือมิใช่เพื่อแสดงความคิดเห็นหรือติชมโดยสุจริต เพื่อให้เกิดความปั่นป่วนหรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน ถึงขนาดที่จะก่อให้เกิดความไม่สงบในราชอาณาจักร หรือเพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน อันมีลักษณะการกระทําใดๆ ในลักษณะเดียวกับการกระทําที่ถูกกล่าวหาในคดีนี้อีก 

เป็นการผิดเงื่อนไขการอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว เพื่อป้องกันผู้ต้องหาจะไปก่อเหตุอันตรายประการอื่น กรณีมีเหตุสมควร จึงมีคําสั่งให้เพิกถอนการปล่อยตัวชั่วคราวผู้ต้องหา หมายขังผู้ต้องหาในระหว่างสอบสวน

 

ไมค์-อานนท์ปฏิเสธการประกันตัว ยืนยันการต่อสู้ แม้ไร้อิสรภาพ

หลังฟังคำสั่งศาลในกรณีของอานนท์ ศาลระบุว่าการเพิกถอนประกัน ไม่ได้ตัดสิทธิผู้ต้องหาในการยื่นประกันตัวใหม่ได้ อานนท์ได้แถลงต่อศาลว่า ตนตัดสินใจไม่ขอยื่นประกัน เนื่องจากการปราศรัยในการชุมนุมนั้นเป็นการใช้สิทธิเสรีภาพ ไม่ใช่ความผิด ตนจึงยินดีจะสละเสรีภาพส่วนตัว​ เพื่อรักษาอุดมการณ์ทางการเมือง และยืนยันว่าสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นกับนักเรียนนักศึกษาเป็นสิ่งที่ผิด 

16.30 น. อานนท์ยังโพสต์จดหมายเขียนข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัว  “ยินดีที่ได้ต่อสู้กับทุกคน เราเดินมาไกล จงเดินต่ออย่างกล้าหาญ หน้าที่นอกคุกผมจบแล้ว ขอเดิมพันทั้งหมดเพื่อการเปลี่ยนแปลง 19 กันยายนนี้ ช่วยยืนยันทีว่าเรามาถูกทาง เชื่อมั่นในทุกคน (ลายเซ็น) 3 ก.ย. 63 ณ ศาลอาญา”

นอกจากนี้ก่อนจบการไต่สวน​ อานนท์ยัง​ขอแถลงต่อศาล​ว่า​ “เรามาถึงจุดที่เราเห็นปัญหา​ร่วมกันและเราเสนอแนวทางการแก้ปัญหา​ ผมก็ยินดีสละทุกอย่าง​ รวมถึงเสรีภาพส่วนตัว​ เรามาถึงจุดที่ต้องพูดเรื่องนี้กันอย่างตรงๆ​ ด้วยความมุ่งหวังที่ดีต่อบ้านเมือง​ ไม่ได้มีเจตนาร้าย​ ทั้งผม​ และนักเรียนนักศึกษา” 

ทางด้านในห้องพิจารณาคดีของภาณุพงศ์ ระหว่างการตัดสินใจว่าจะยอมรับเงื่อนไขการประกันตัวใหม่หรือไม่ เขาได้โทรศัพท์หาแม่ หลังการพูดคุย และเขาพยายามอธิบายกับแม่ว่าถ้ายินยอมรับเงื่อนไขการประกันแบบที่เกิดขึ้นในวันนี้ สิ่งที่สู้มาอาจเสียเปล่า แม่ของภาณุพงศ์จึงเห็นร่วมด้วย

ภาณุพงศ์ร้องไห้ออกมาหลังพูดคุยกับแม่ และตัดสินใจไม่ยินยอมรับเงื่อนไขในการให้เพิ่มวงเงินประกันตัวของศาล

16.40 น. ภาณุพงศ์ยังเขียนข้อความและโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวว่า “ขบวนการประชาธิปไตยเริ่มออกเดินทาง เมื่อทุกคนรู้ว่าสิ่งที่เป็นอยู่ในสังคมปัจจุบัน คือการหลงระเริงด้วยอำนาจของเหล่าชนชั้นผู้นำ การออกเดินทางในครั้งนี้ พวกเราผู้มีอุดมการณ์แห่งความเป็นประชาธิปไตย มีจุดมุ่งหมายเดียวกัน คือการเดินหน้าสู้ต่อความอยุติธรรมและความเหลื่อมล้ำ รวมถึงระบบศักดินาที่คอยกัดกล่อนกินระบอบประชาธิปไตยของเราเรื่อยมา 

“หากขบวนการในการเดินทางครั้งนี้จะต้องขาดใครสักคน ขอทุกคนจงเชื่อมั่นในจุดมุ่งหมายที่เราร่วมทางกันมา อย่าหยุดรอใครให้เวลามันเดินไปอย่างเสียเปล่า แต่ขอจงสู้ต่อไป เพื่อนำชัยชนะมาสู่ขบวนการของพวกเรา การเสียสละอิสรภาพของใครคนใดคนหนึ่งเป็นเพียงการต่อสู้ที่ต้องพบเจอของนักต่อสู้ ผมเชื่อมั่นในตัวทุกคนว่าถ้าผมไม่ได้รับอิสรภาพทุกคนจะเดินต่อไปได้ และจะพบชัยชนะตามที่เราต่อสู้มา” 

17.15 น. หลังจากทั้งสองถูกนำตัวไปใต้ถุนศาล เจ้าหน้าที่ได้ใช้รถตำรวจ 2 คัน คอยนำรถผู้ต้องขังของทางราชทัณฑ์ แม้ทนายความ ญาติผู้ต้องหา และประชาชน จะมารอที่ใต้ถุนศาล​ แต่เจ้าหน้าที่ศาลปิดประตูเหล็กลง​ ไม่ให้พบผู้ต้องหา

17.20 น. อานนท์และภาณุพงศ์ถูกพาตัวออกจากศาลอาญา ไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ 

ทั้งสองอาจถูกคุมขังต่ออีก 21 วัน ครบวันที่ 24 ก.ย. 63 เพราะเป็นวันสุดท้ายที่พนักงานสอบสวน สน. สำราญราษฎร์และอัยการจะขออำนาจศาลอาญาฝากขังทั้งสองไว้ในระหว่างสอบสวนได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 87 ที่กำหนดให้ความผิดที่มีโทษไม่ถึง 10 ปี ศาลมีอำนาจสั่งขังหลายครั้งติดๆ กันได้ แต่ครั้งหนึ่งต้องไม่เกิน 12 วัน และรวมกัน ทั้งหมดต้องไม่เกิน 48 วัน

*หมายเหตุ: ภาพปกของบทความนี้เป็นภาพจาก Banrasdr Photo

 

X