วันนี้(27 เม.ย.2559) ตลอดช่วงเช้ามีการส่งต่อข้อมูลทางโซเชียลมีเดียร์ว่ามีเจ้าหน้าที่ทหารเข้าควบคุมตัวบุคคลทั้งในกรุงเทพและขอนแก่นรวมอย่างน้อย 8 ราย ตั้งแต่เวลาประมาณ 5.00น. ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนจึงได้ติดตามและรวบรวมข้อมูลจนสามารถยืนยันตัวบุคคลที่ถูกควบคุมตัวและพฤติการณ์การควบคุมตัวได้เพียง 5 ราย และทราบชื่อจากข่าวอีก 1 ราย ได้แก่

1. นพเก้า คงสุวรรณ สำเนียง ผึ้งผาย ยายของนพเกล้าให้สัมภาษณ์ว่าถูกเจ้าหน้าที่ทหารราว 10 นาย เข้ามาควบคุมตัวเมื่อเวลาประมาณ 7:00 น. ขณะกำลังนอนหลับอยู่ที่ห้องนอนได้ยินเสียงเหมือนมีคนกำลังงัดแงะประตูบ้าน จึงออกมาดูเห็นว่ากำลังงัดประตูบ้านทั้งด้านหน้าและประตูมุ้งลวดด้านหลัง เมื่อขอดูหมายค้นเจ้าหน้าที่แจ้งว่า การบุกค้นในครั้งนี้ทำตามหน้าที่โดยมีอำนาจรองรับ เป็นการบุกจับโดยที่ไม่ต้องมีหมายค้นและหมายจับแต่อย่างใด จากนั้นทหารก็ค้นบ้านและงัดเข้าไปในห้องของนพเก้าแล้วควบคุมตัวเขาออกมาจากห้องแล้วคุมตัวออกไป ทหารบอกว่าจะนำตัวนพเก้าเข้าไปควบคุมที่ มทบ.11 ทั้งหมดนี้ไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหาและหมายค้นแต่อย่างใด ในตอน 14.00น. สำเนียงได้เดินทางไปที่ มทบ.11 เพื่อขอเข้าเยี่ยมนพเก้า แต่ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ทหารไม่อนุญาตให้เข้าเยี่ยม

“พวกเขาบุกมาราวกับว่า กลุ่มโจรกำลังจะปล้นบ้าน ตกใจมากไม่คิดว่าในชีวิตจะต้องพบเจออะไรแบบนี้ พวกเขาบุกเข้ามาโดยไม่แจ้งเตือน ไม่นัดหมายและบุกปีนรั้วเข้ามาและพยายามงัดประตูบ้านเข้ามาโดยไม่ได้รับอนุญาตจากตัวเอง ถือว่าเป็นการกระทำที่โหดร้ายมาก แต่ก็มีทหารคนหนึ่งพยายามพูดคุยด้วยท่าทีสุภาพและแจ้งกับยายว่า หลายชายจะไปที่ มทบ.11” ยายของนพเก้ากล่าว

2. ศุภชัย สายบุตร ช่างภาพ ถาวร สายบุตร พ่อของนายศุภชัยเล่าว่า ในตอนเช้าหลังกลับเข้ามาที่บ้านนายศุภชัยถูกเอาตัวไปจากบ้านแล้ว ตนจึงทราบเรื่องจากคนแถวบ้านว่ามีทหารและตำรวจมาที่บ้านตอน 05.30 น. โดยเจ้าหน้าที่อ้างว่ามาจับตาม พ.ร.บ.คอมฯ และจะนำตัวศุภชัยไป มทบ.11 จากนั้นในช่วงสายถาวรได้ไปเยี่ยมที่มทบ.11 แล้วแต่เจ้าหน้าที่ทหารไม่ให้เข้าเยี่ยม แต่แจ้งว่ามีการควบคุมตัวไว้ที่นี่

3. วรารัตน์ เหม็งประมูล(สงวนชื่อนามสกุลจริง) แม่ของวรารัตน์ให้ข้อมูลว่ามีทหารในเครื่องแบบ 2 นายและนอกเครื่องแบบอีกประมาณ 5-6 คน พร้อมรถยนต์บุคคลโตโยต้า 2 คันและรถกระบะสี่ประตูติดแค็บสีดำติดฟิล์มดำ มาจับกุมขณะที่วรารัตน์และตนยังนอนอยู่ เจ้าหน้าที่เข้ามากดกริ่งรัวๆ จึงรีบมาดูแต่เนื่องจากหากุญแจเจอจึงเปิดไม่ได้ในทันที และมีเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบนายหนึ่งปีนเข้ามาจากหลังบ้านโดยงัดบานเกร็ดเข้ามา เมื่อวรารัตน์เปิดประตูให้แล้วทหารได้ต่อว่าวรารัตน์ว่าทำไมจึงเปิดช้า และถามว่ามีการทำลายเอกสารหรือเปล่า เจ้าหน้าที่เข้าค้นบ้านทั้งสองชั้น และจับกุมตัววรารัตน์ไป พร้อมยึดโทรศัพท์มือถือ 2เครื่องและคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะไป 4 เครื่อง ตลอดกระบวนการเจ้าหน้าที่ไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหา หมายจับและหมายค้นแต่อย่างใด

ภายหลังจากที่วรารัตน์ถูกควบคุมตัวไปได้ราวชั่วโมงครึ่ง แม่ของวรารัตน์ได้รับการติดต่อจาากเพื่อนของวรารัตน์ว่าวรารัตน์ได้ใช้โทรศัพท์ของเจ้าหน้าที่ทหารโทรศัพท์มาแจ้งว่า ไม่ทราบวาตนเองถูกควบคุมตัวอยู่ที่ไหนเพราะถูกปิดตาหลังถูกนำตัวขึ้นรถไป

4. หฤษฏ์ มหาทน 25 ปี อดีตนักข่าว นักเขียน และนิธิ กุลธนศิลป์ อายุ 26 ปี ซึ่งทั้งสองร่วมหุ้นเปิดร้านราเมงในจังหวัดขอนแก่น ได้ถูกทหารประมาณ 20 นาย พร้อมอาวุธ บุกไปที่บ้านพักในจังหวัดขอนแก่น ในเวลาประมาณ 06.00 น. พร้อมค้นบ้าน และยึดโทรศัพท์ โน้ตบุ๊ค หนังสือเดินทางของหฤษฏ์ไป โดยไม่แจ้งว่า ควบคุมตัวจากสาเหตุอะไร และจะนำตัวไปที่ใด จนกระทั่งในตอนบ่ายทางศูนย์ทนายความฯ ได้ติดตามกรณีของทั้งสองคนที่ค่ายศรีพัชรินทร์ มทบ.23 จ.ขอนแก่น พ.ท.พิทักษ์พล ชูศรีให้ข้อมูลว่าตนเองก็ไม่ทราบว่าทั้งสองคนถูกควบคุมตัวมาด้วยเรื่องอะไรเนื่องจากเป็นเจ้าหน้าที่ทหารจาก มทบ.11 และเจ้าหน้าที่ ICT ดำเนินการ และทั้งสองคนถูกนำตัวเข้าไปที่ มทบ.11 ตั้งแต่ช่วงเช้าแล้ว

สถานการณ์ล่าสุดของกรณีนี้ เวลาประมาณ 22.00 น. ศูนย์ทนายความฯ ได้รับทราบจากพ่อของนิธิ กุลธนศิลป์ ว่าเจ้าหน้าที่ทหารได้นำตัวลูกชายมาส่งที่บ้านย่านลาดพร้าวแล้วโดยปลอดภัย แต่ขณะนี้เจ้าตัวยังไม่พร้อมให้สัมภาษณ์ใดๆ

5. ธนวรรธ บูรณศิริ ซึ่งปรากฏตามที่พ.อ.วินธัย สุวารีให้สัมภาษณ์ว่าเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวจากห้องพักย่านบางนา โดยนายธนวรรธให้การขั้นต้นยอมรับว่าเป็นแอดมินเพจ “เรารัก พล.อ.ประยุทธ์” มีเนื้อหากล่าวโจมตีรัฐบาลและตกแต่งรูปล้อเลียนนายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช.1

ในกรณีของหฤษฎ์และนิธิ ปรากฏข่าวจากฝ่ายรัฐเมื่อเวลา 14.10น. พ.อ.สมชาย ครรภาฉาย รอง ผบ.มทบ.23 กล่าวว่า กำลัง กกล.รส.จว.ขอนแก่น ได้สนธิกำลังร่วมทหารฝ่ายความมั่นคง จากคสช. ทำการเชิญตัวบุคคลทั้ง 2 มาพูดคุยและทำความเข้าใจ และได้ทำบันทึกประจำวันและลงในเอกสารหลักฐานจากชุดปฏิบัติการจากส่วนกลางทั้งหมด ซึ่งในการเชิญตัวดังกล่าวนั้น ทั้ง 2 มีข้อมูลเกี่ยวกับการกระทำผิดต่อ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ หลังจากคณะทำงานตรวจพบว่ามีการโพสต์ข้อความในเชิงต่อต้านการทำงานของ รัฐบาล2

ทั้งนี้เวลา 15.30น. ยังปรากฏข่าวว่าพ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แถลงข่าวถึงกรณีที่เจ้าหน้าที่ทหารควบคุมตัวประชาชน 10 คน ซึ่ง 8 รายในพื้นที่กรุงเทพมหานครในมณฑลทหารบกที่ 11 (มทบ.11) และอีก2รายที่ค่ายมณฑลทหารบกที่ 23 ( มทบ.23) จ.ขอนแก่น ว่าทหารจะควบคุมตัวบุคคลดังกล่าวตาม มาตรา44 แห่งรัฐธรรมนูญ (ชั่วคราว) และยังไม่มีการตั้งข้อหาใดๆ3แต่ไม่ปรากฏว่าโดยละเอียดว่ามีบุคคลที่ถูกควบคุมตัวเข้าค่ายทหารทั้งสองแห่งมีใครบ้าง

“การควบคุมตัวบุคคลทั้ง 8รายนั้นเป็นการควบคุมตัวโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์นั้นไม่มีกฎหมายใดให้อำนาจเจ้าหน้าที่ทหารในการควบคุมตัวได้เลย และการควบคุมตัวบุคคลโดยไม่มีหมายจับ ไม่แจ้งข้อกล่าวหา ไม่ได้รับสิทธิในการเข้าถึงญาติและทนายความ และไม่สามารถฟ้องร้องเจ้าหน้าที่ตามมาตรา 44 รัฐธรรมนูญ(ฉบับชั่วคราว) 2557 ศูนย์ทนายความฯ ได้ยืนยันมาโดยตลอดว่ากระบวนการเหล่านี้ขัดต่อกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมืองและขัดต่อหลักการพิจารณาคดีที่เป็นธรรม การใช้อำนาจในลักษณะนี้ได้สร้างบรรยากาศของความหวาดกลัวแก่ประชาชนในการใช้สิทธิเสรีภาพในการแสดงออก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเราอยู่ในช่วงการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ จึงเป็นการยืนยันได้ว่าขณะนี้ประเทศไทยไม่มีสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกเลย จึงขอเรียกร้องให้คสช.ปล่อยตัวทั้ง 8คนในทันที หากมีการกระทำความผิดก็ต้องเข้าสู่กระบวนการพิจารณาปกติที่ไม่ใช่ศาลทหาร” เยาวลักษ์ อนุพันธุ์ หัวหน้าศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน กล่าว

 

1http://www.springnews.co.th/politics/288793 
2http://www.matichon.co.th/news/118778

3http://www.matichon.co.th/news/118992
เพิ่มเติมข้อมูล 11.00น. เรื่องทหารปล่อยตัวนิธิ กุลธนศิลป์

X