แจ้งกีดขวางการจราจรเพิ่มอีกข้อหา หลังโดน พ.ร.บ.ชุมนุมฯ สมาชิกกลุ่มต้านโปแตชสกลนครชี้ถูกกลั่นแกล้ง

แจ้งกีดขวางการจราจรเพิ่มอีกข้อหา หลังโดน พ.ร.บ.ชุมนุมฯ สมาชิกกลุ่มต้านโปแตชสกลนครชี้ถูกกลั่นแกล้ง

21 เม.ย.60 ศตานนท์ ชื่นตา กลุ่มรักษ์อำเภอวานรนิวาส ซึ่งคัดค้านการสำรวจและทำเหมืองแร่โปแตชในเขตอำเภอวานรนิวาส จ.สกลนคร เข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.วานรนิวาส ตามที่นัดหมาย หลังจากเมื่อวันที่ 27 มี.ค. ที่ผ่านมา ศตานนท์เข้ารับทราบข้อกล่าวหาตามที่ถูกออกหมายเรียก โดยถูกกล่าวหาว่า เป็นผู้จัดให้มีการชุมนุมสาธารณะโดยไม่แจ้งการชุมนุมต่อเจ้าหน้าที่ก่อนการชุมนุมไม่น้อยกว่า 24 ชม. อันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ มาตรา 10 จากกรณีที่ชาวบ้านจัดขบวนแห่เพื่อเชิญชวนคนเข้าร่วมงาน “สืบชะตาห้วยโทง” ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 12 มี.ค. 60 ขณะตำรวจระบุว่า เป็นการจัดการชุมนุมคัดค้านการสำรวจแร่โปแตช และศตานนท์ให้การปฏิเสธ (อ่านเพิ่มเติมที่นี่)

ทั้งนี้ ร.ต.อ.สุระ บุญแสง พนักงานสอบสวนได้แจ้งศตานนท์ว่า พ.ต.ท.ธีระยุทธ วรรณกุล รักษาการฯ ผู้กำกับ สภ.วานรนิวาส ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนให้แจ้งข้อหา กีดขวางทางจราจร อันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก เพิ่มเติมอีก 1 ข้อหา แต่เนื่องจากศตานนท์เห็นว่า ข้อกล่าวหาดังกล่าวไม่ชอบธรรม และเหมือนจงใจที่จะกลั่นแกล้ง เขาจึงไม่ลงลายมือชื่อในบันทึกการแจ้งข้อกล่าวหา ขณะที่พนักงานสอบสวนก็ไม่มอบสำเนาบันทึกฯ  ดังกล่าวให้แก่เขา จากนั้น พนักงานสอบสวนจึงนัดหมายให้ศตานนท์มาพบอีกครั้งในวันที่ 24 เม.ย.ที่จะถึงนี้ เพื่อส่งตัวศตานนท์พร้อมสำนวนการสอบสวนไปให้พนักงานอัยการจังหวัดสว่างแดนดินพิจารณาสั่งคดี

ศตานนท์เปิดเผยว่า เขารู้สึกว่าเจ้าหน้าที่ตั้งใจกลั่นแกล้ง ปกติในทุกปี ชาวบ้านก็จะมีการแห่ในงานบุญต่างๆ เช่น บุญผะเหวด หรือแห่บอกบุญให้คนมาร่วมงาน ก็ทำได้ ไม่เคยถูกดำเนินคดี  กิจกรรมแห่บอกบุญ “สืบชะตาห้วยโทง” ที่เป็นเหตุให้ถูกดำเนินคดีนั้นก็ไม่ได้กีดขวางทางจราจร หรือทำให้การจราจรติดขัด เพราะขบวนก็วิ่งในช่องทางเดียว แม้แต่การเดินในหมู่บ้านก็เดินบนถนนคอนกรีตฝั่งเดียว รถก็ยังสัญจรไปมาได้ปกติ นอกจากนี้ การที่พนักงานสอบสวนนัดอย่างกระทันหันในวันศุกร์ และจะส่งตัวเขาไปอัยการในเช้าวันจันทร์เลยนั้น ทำให้เขาอาจเตรียมหลักทรัพย์เพื่อประกันตัวไม่ทัน

ทั้งนี้ ข้อหาที่ศตานนท์ถูกกล่าวหานั้น ในความผิดฐานกีดขวางทางจราจร ตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก  มาตรา 43(3) ขับรถในลักษณะที่กีดขวางการจราจร มีโทษปรับ 400-1,000 บาท หรือมาตรา 108 เดินแถวเดินเป็นขบวนแห่หรือเดินเป็นขบวนใดในลักษณะที่เป็นการกีดขวางการจราจร มีโทษปรับไม่เกิน 500 บาท ขณะที่ พ.ร.บ.ชุมนุมฯ มาตรา 10 ชุมนุมโดยไม่แจ้งก่อน 24 ชม. มีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท

ก่อนหน้านี้ หลังถูกแจ้งข้อกล่าวหา พ.ร.บ.ชุมนุมฯ แล้ว เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ไปตามหาศตานนท์ที่บ้าน และบอกให้ยุติการเคลื่อนไหวต่อต้านเหมืองแร่โปแตช ที่ อ.วานรนิวาส (อ่านเพิ่มเติมที่นี่)

นอกจากนี้ แกนนำกลุ่มคัดค้านคนอื่นๆ ก็เคยถูกนายอำเภอเรียกเข้าพบเพื่อห้ามชุมนุมและทำกิจกรรมคัดค้านเหมืองโปแตช โดยอ้างคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 3/58 และ 13/59, ป้ายคัดค้านถูกปลด รวมทั้ง เคยมีการแจ้งข้อหาจัดการชุมนุมโดยไม่แจ้งเจ้าหน้าที่ก่อนการชุมนุม ตาม พ.ร.บ.ชุมนุมฯ กับผู้เข้าร่วมเดินรณรงค์ประกาศเจตนารมณ์คัดค้านการทำเหมืองแร่โปแตช เมื่อเดือน เม.ย.59 จำนวน 2 ราย

ขณะที่เพจ กลุ่มรักษ์อำเภอวานรฯ มีผู้เข้ามาโพสต์ว่า ช่วงบ่ายวันเดียวกันนี้ (21 เม.ย.60) ได้มีกลุ่มชาวบ้านหนองมะเกลือ ต.คอนสวรรค์ ได้เข้าแจ้งความที่ สภ.วานรนิวาส เนื่องจากชาวบ้านได้รับผลกระทบจากการทำงานเจาะสำรวจแร่ฯ ในเวลากลางคืนและเสียงดัง ก่อนหน้าทางชาวบ้าน ได้มาแจ้งความแล้วครั้งนึง แต่ทาง จนท.ไม่ยอมรับแจ้ง จนชาวบ้านได้มากดดันให้ทาง จนท.รับแจ้งอีกครั้งนึง แต่ในขณะชาวบ้านกำลังแจ้งความ ได้มีคำสั่งจากนายอำเภอวานรนิวาส ให้ผู้ใหญ่บ้านหนองมะเกลือเข้าพบโดยเร่งด่วน และกำชับให้ผู้ใหญ่บ้านวางตัวเป็นกลาง อย่าออกตัวแรง

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

แจ้งข้อหาผิด พ.ร.บ.ชุมนุมฯ ชาวบ้านต้านเหมืองโปแตชสกลนคร

 

X