อ้างผิดพ.ร.บ.ชุมนุมฯ ทหารห้ามจัดเสวนาหน้าเรือนจำ หลังปล่อย 3 ชาวบ้านปฏิรูปที่ดินลำพูน

10 พ.ค.60 ที่เรือนจำจังหวัดลำพูน ได้มีการปล่อยตัวชาวบ้านสมาชิกเครือข่ายปฏิรูปที่ดินภาคเหนือจำนวน 3 ราย ที่ถูกคุมขังในข้อหาบุกรุกที่ดินเอกชน ที่บ้านแพะใต้ อำเภอเวียงหนองล่อง จังหวัดลำพูน ได้แก่ นายสุแก้ว ฟุงฟู, นายพิภพ หารุคำจา และนางคำ ซางเล็ง โดยทั้งสามคนต้องโทษจำคุกตามคำพิพากษาศาลฎีกา รายละ 1 ปี และต้องขังมาจนครบกำหนดโทษแล้ว จึงจะได้รับการปล่อยตัวในวันนี้

ในโอกาสที่ชาวบ้านได้รับการปล่อยตัวออกจากเรือนจำนี้ ทางขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (P-move) ร่วมกับเครือข่ายสหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือ และเครือข่ายจับตาปัญหาที่ดิน (Land Watch) ได้กำหนดจัดกิจกรรม “คืนพิราบสู่ท้องฟ้า: สิ้นสุดการจองจำนักสู้ปฏิรูปที่ดิน”  โดยจะมีการจัดเวทีเสวนาสาธารณะในหัวข้อ “อิสรภาพ (ราคาถูก) ของคนจน: เซ่นสังเวยความล่าช้านโยบายรัฐ” โดยมีวิทยากรจากนักวิชาการมหาวิทยาลัยเที่ยงคืน ทนายความ และแกนนำชาวบ้าน ร่วมพูดคุยถึงการแก้ไขปัญหาที่ดิน และถอดบทเรียนการต่อสู้ของประชาชน นอกจากนั้นยังมีกำหนดจัดพิธีบายศรีสู่ขวัญ เพื่อเป็นการต้อนรับชาวบ้านออกจากเรือนจำ และกิจกรรมปล่อยนกพิราบ สัญลักษณ์ของอิสรภาพ

ก่อนหน้านี้ ทางเครือข่ายสหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือได้จัดทำหนังสือขออนุญาตในการจัดกิจกรรมพิธีบายศรีสู่ขวัญ ยื่นต่อทางเรือนจำจังหวัดลำพูนเอาไว้แล้ว โดยได้รับอนุญาตจากทางเรือนจำ  แต่ในเช้าวันนี้ ทางผู้บัญชาการเรือนจำได้ห้ามไม่ให้มีการจัดกิจกรรมใดๆ ในพื้นที่ของเรือนจำ โดยระบุว่าเนื่องจากเห็นว่ามีการจัดเวทีสาธารณะเพิ่มเติมเข้ามา ทำให้เห็นว่ากิจกรรมอาจขัดต่อพ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.2558 ส่วนพิธีบายศรีสู่ขวัญก็อยากให้ไปจัดในสถานที่อื่น นอกบริเวณเรือนจำ

ในเช้าวันนี้ การปล่อยตัว 3 ชาวบ้านเครือข่ายปฏิรูปที่ดิน ยังมีขึ้นเร็วกว่ากำหนด โดยมีการปล่อยตัวทั้งสามคนออกมาจากเรือนจำในเวลาราว 7.40 น. จากกำหนดเดิมราว 9.00 น. ทำให้ญาติและชาวบ้านเครือข่ายปฏิรูปที่ดินเดินทางมาไม่ทันการปล่อยตัว  อีกทั้ง ในระหว่างการปล่อยตัวและการทำกิจกรรม ยังมีเจ้าหน้าที่ทหารจากกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดลำพูนหลายสิบนาย รวมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ เข้ามาดูแลพื้นที่บริเวณเรือนจำลำพูนอีกด้วย

เจ้าหน้าที่ทหารกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยที่เข้ามาดูแลพื้นที่ ได้ระบุกับผู้สื่อข่าวไทยพีบีเอสที่ติดตามทำข่าวด้วยว่า ในส่วนกิจกรรม ถ้าเป็นกิจกรรมประเพณีวัฒนธรรม อย่างการบายศรีสู่ขวัญก็สามารถกระทำได้ แต่ถ้าเป็นเวทีสาธารณะที่มีการพูดคุย ทางฝ่ายทหารเห็นว่าอาจนำไปสู่การแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ทางการเมือง และอาจเข้าข่ายผิดตามพ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะได้ อีกทั้ง ในการประชาสัมพันธ์เชิญชวนกิจกรรมครั้งนี้ พบว่าข้อความที่สื่อออกไป ยังมีลักษณะหมิ่นเหม่ในเชิงสัญลักษณ์ทางการเมือง ทำให้ต้องขอความร่วมมือให้งดจัดกิจกรรมเสวนาดังกล่าว

นอกจากนั้น ทางเจ้าหน้าที่ทหารยังห้ามไม่ให้ผู้จัดงานแสดงป้ายข้อความใดๆ ในบริเวณเรือนจำ แม้จะเป็นเพียงชื่องานหรือชื่อกิจกรรมเสวนาก็ตาม ทำให้ทางผู้จัดไม่สามารถแสดงป้ายที่เตรียมมาได้

ทางผู้จัดงานได้พยายามเจรจากับเจ้าหน้าที่ ในเรื่องการขอจัดพิธีบายศรีสู่ขวัญเพียงอย่างเดียว แต่ทางเรือนจำยังคงไม่อนุญาตให้จัด ทำให้ผู้จัดงานและเครือข่าย ได้ตัดสินใจจัดกิจกรรมดังกล่าวบริเวณริมถนนด้านหน้าของเรือนจำแทน โดยมีเครือข่ายชาวบ้านและนักวิชาการร่วมกิจกรรมบายศรีสู่ขวัญ และมีเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจจับตากิจกรรม

ภาพบรรยากาศการปล่อยตัว 3 ชาวบ้านเครือข่ายปฏิรูปที่ดิน และพิธีบายศรีสู่ขวัญบริเวณริมถนนหน้าเรือนจำลำพูน (ภาพจากเพจบ่ายโมง ตรงประเด็น และนักข่าวพลเมือง ไทยพีบีเอส)

ทั้งนี้ คดีที่ดินลำพูนเป็นคดีที่ชาวบ้านเคลื่อนไหวเรียกร้องความเป็นธรรมเรื่องการจัดการที่ดินมาโดยตลอดสิบปี ในประเด็นปัญหาการออกโฉนดที่ดินโดยมิชอบทับที่สาธารณะของชุมชน การนำที่ดินรกร้างว่างเปล่ามาใช้ให้เกิดมูลค่า และกระจายการถือครองที่ดินให้กับประชาชนที่ยากจน ปัจจุบัน หลังจากการปล่อยตัวชาวบ้าน 3 ราย ยังมีชาวบ้านเครือข่ายปฏิรูปที่ดินถูกคุมขังในเรือนจำลำพูน จากข้อหาบุกรุกที่ดินในกรณีเดียวกัน อีก 4 ราย และจะมีกำหนดครบโทษในช่วงเดือนมิ.ย.นี้

 

อ่านเพิ่มเติม

คดีที่ดินลำพูนคืออะไร ทำไมชาวบ้านถึงติดคุก? โดยเครือข่ายจับตาปัญหาที่ดิน (Land Watch)

ลำดับเหตุการณ์ทางคดีและการขับเคลื่อนกับรัฐบาลกรณีคดีแพะใต้ โดยสำนักข่าวประชาธรรม

X