ศาลทหารให้ประกันตัว “หนุ่มนักดนตรีอุบลฯ” ข้อหาไม่ไปรายงานตัวต่อคสช. ด้วยเงินสด 30,000 บาท

2 ก.ย. 2560 ศาลทหารกรุงเทพฯ อนุญาตให้ประกันตัวนายพฤทธ์นรินทร์ “หนุ่มนักดนตรีอุบลฯ” จากข้อกล่าวหาฝ่าฝืนไม่ไปรายงานตัวตามคำสั่งคสช. ด้วยเงินสด 30,000 บาท และต้องไปรายงานตัวต่อศาลทุกๆ 12 วัน

เหตุจากเมื่อช่วงเช้าวันที่ 1 ก.ย. 60 นายพฤทธ์นรินทร์ ถูกอายัดตัวจากเรือนจำกลางอุบลราชธานี หลังจากได้รับการปล่อยตัวในคดีตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 ก่อนถูกนำตัวมาถึงยังกองบังคับการกองปราบ กรุงเทพฯ ในช่วงค่ำวานนี้ ด้วยหมายจับของศาลทหารกรุงเทพ เมื่อวันที่ 13 มิ.ย.2557 ในข้อหาฝ่าฝืนคำสั่งคสช. เรียกให้ไปรายงานตัว โดยนายพฤทธ์นรินทร์ถูกแจ้งข้อกล่าวหาที่กองบังคับการกองปราบ ในเวลา 21.00น. และได้ถูกควบคุมตัวไว้ที่กองบังคับการปราบปรามเป็นเวลาหนึ่งคืน

เช้าวันนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการกองปราบ ได้นำตัวนายพฤทธ์นรินทร์ไปยังศาลทหารกรุงเทพฯ เพื่อขออำนาจศาลฝากขังในระหว่างชั้นพนักงานสอบสวน แต่ทางญาติและทนายความของนายพฤทธ์นรินทร์ ได้เดินทางเข้าไปเพื่อยื่นขอประกันตัวต่อศาลทหารกรุงเทพฯ ต่อมาเวลา 11.25 น. ศาลทหารกรุงเทพฯได้มีคำสั่งอนุญาตให้ประกันตัวนายพฤทธ์นรินทร์ ด้วยเงินสดจำนวน 30,000 บาท และให้มารายงานตัวต่อศาลทหารกรุงเทพฯทุกๆ 12 วัน

ภายหลังการรัฐประหาร 2557 พฤทธิ์นรินทร์ถูกเรียกรายงานตัวตามคำสั่งคสช.ที่ 44/2557 ลงวันที่ 1 มิ.ย.2557 ให้มารายงานตัวที่สโมสรทหารบก เทเวศร์ ในวันที่ 3 มิ.ย.2557 และยังถูกเรียกรายงานตัวซ้ำอีกครั้งตามคำสั่งคสช.ที่ 53/2557 ลงวันที่ 8 มิ.ย.2557 ให้มารายงานตัวในวันที่ 9 มิ.ย.2557 แต่ในช่วงดังกล่าว พฤทธิ์นรินทร์ระบุว่าตนไม่ทราบว่ามีคำสั่งเรียกรายงานตัวดังกล่าวแต่อย่างใด

จนกระทั่งวันที่ 12 มิ.ย.2557 พฤทธิ์นรินทร์จึงได้ทราบจากญาติว่ามีคำสั่งเรียกรายงานตัว จึงได้เดินทางเข้าไปยังสโมสรกองทัพบก แต่หลังจากเข้ารายงานตัวกับทางคสช. ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจจากสถานีตำรวจภูธรเมืองอุบลราชธานีเดินทางมารับตัวตามหมายจับของศาลจังหวัดอุบลราชธานี ในคดีตามมาตรา 112 และพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะพาตัวพฤทธิ์นรินทร์กลับไปคุมขังที่สภ.เมืองอุบลราชธานี ในวันที่ 13 มิ.ย.2557

ขณะที่ในวันที่ 13 มิ.ย.2557 เช่นเดียวกัน ศาลทหารกรุงเทพได้อนุมัติหมายจับผู้ที่ฝ่าฝืนคำสั่ง คสช. ไม่มารายงานตัวภายในกำหนด โดยมีพฤทธิ์นรินทร์เป็นหนึ่งในจำนวนนั้นด้วย ต่อมาวันที่ 16 มิ.ย.2557 อัยการจังหวัดอุบลราชธานีได้ส่งฟ้องคดีมาตรา 112 ต่อศาล ก่อนที่จำเลยจะให้การรับสารภาพ และศาลจังหวัดอุบลราชธานีได้มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 31 ก.ค.2557 โดยเห็นว่าจำเลยมีความผิดตามมาตรา 112 และพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 ทั้งหมด 9 กรรม จำเลยให้การรับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่ง เหลือจำคุกรวม 13 ปี 22 เดือน

หลังจากถูกคุมขังเป็นเวลาราว 3 ปีเศษ พฤทธิ์นรินทร์ได้รับการปล่อยตัวออกจากเรือนจำจังหวัดอุบลราชธานี โดยเขาได้รับการลดหย่อนจากพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษในโอกาสสำคัญจำนวนสองครั้ง และถูกคุมขังจนครบกำหนดโทษ

 

สำหรับนายพฤทธิ์นรินทร์ ปัจจุบันอายุ 30 ปี เคยศึกษาด้านคอมพิวเตอร์จนเกือบจบปริญญาตรี แต่ได้หันมาเรียนจนจบด้าน ปวส.แทน หลังจากนั้นได้ประกอบอาชีพเป็นนักดนตรีตามร้านอาหารในจังหวัดอุบลราชธานี รวมทั้งเกิดความสนใจทางการเมืองจากการศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง จนกระทั่งถูกดำเนินคดีมาตรา 112 ดังกล่าว

 

ทั้งนี้ ตามประกาศคสช.ฉบับที่ 41/2557 ได้มีการกำหนดโทษสำหรับการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งเรียกบุคคลให้มารายงานตัว ต่อคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

 

อ่านเพิ่มเติม

คดี 112 หนุ่มอุบล ศาลพิพากษาจำคุก 13 ปี 22 เดือน กรณีโพสต์เฟซบุ๊กรวม 9 กรรม (สำนักข่าวประชาไท)

รายงาน: ชีวิตนักดนตรีหนุ่มชาวอุบล ก่อน-หลังจองจำ 30 ปีคดี 112 (สำนักข่าวประชาไท)

ปล่อยตัว “นักดนตรีอุบลฯ” จากคดี ม.112 ก่อนถูกจนท.กองปราบอายัดตัวต่อในคดีไม่ไปรายงานตัวคสช.

X