ฝ่ายกฎหมายคสช.ผู้สอบสวนจำเลยทั้ง 6 ขึ้นเบิกความต่อ คดีจ้างปาระเบิดศาลอาญา สืบปากนี้ต่อนัดหน้า 31สิงหาและ1กันยา

วันศุกร์ที่ผ่านมาหัวหน้าฝ่ายกฎหมาย คสช. ขึ้นเบิกความคดีจ้างวานก่อเหตุระเบิดศาลอาญาเมื่อมีนาคมปีที่แล้วในประเด็นการโอนเงินระหว่างจำเลยแต่ละคนเพื่อก่อเหตุระเบิดดังกล่าว ศาลนัดสืบพยานปากนี้อีกครั้งวันที่ 31 ส.ค.-1 ก.ย. และปากต่อไป19 ก.ย.2559

3มิ.ย.2559 ศาลทหารมีนัดสืบพยานโจทก์คดีจ้างวานเตรียมก่อเหตุระเบิดศาลอาญาเมื่อวันที่ 7 มีนาคม2558 พยานที่มาในวันนี้ พล.ต.วิจารณ์ จดแตง หัวหน้าส่วนปฏิบัติการคณะทำงานด้านกฎหมาย คสช. ในฐานะเป็นผู้สอบสวนในชั้นกฎอัยการศึกและผู้กล่าวหาจำเลยทั้ง 6 คนได้แก่ จำเลยที่ 1 นางสุภาพร มิตรอารักษ์,จำเลยที่ 2 นางวาสนา บุษดี, จำเลยที่ 3 น.ส.ณัฎฐิดา มีวังปลา,จำเลยที่ 4 นายสุรพล เอี่ยมสุวรรณ,จำเลยที่ 5 นายวสุ เอี่ยมละออ และจำเลยที่ 6 นายสมชัย อภินันท์ถาวร

พล.ต.วิจารณ์เป็นผู้กล่าวหาจำเลยทั้ง6คนในข้อหาเป็นอั้งยี่ ร่วมกันตระเตรียมการก่อการร้าย ร่วมกันมียุทธภัณฑ์ในครอบครอง ร่วมกันมีเครื่องกระสุนที่นายทะเบียนออกใบอนุญาตให้ไม่ได้ และร่วมกันเป็นผู้ใช้ให้ผู้อื่นกระทำความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยใช้เครื่อง กระสุนที่นายทะเบียนออกใบอนุญาตให้ไม่ได้

พล.ต.วิจารณ์เบิกความตอบอัยการทหารโดยสรุปว่าตนเป็นผู้สอบสวนจำเลยทั้ง6คนในคดีนี้ จากกการสอบสวนได้ความว่ามีการตั้งกลุ่มในแอพลิเคชั่น Lineขึ้นมา แบะสุรพลได้อ้างว่าเคยฝึกการใช้อาวุธและวัตถุระเบิด นางสุภาพรซึ่งมีความต้องการที่จะต่อต้านรัฐบาลโดยการก่อเหตุร้ายอยู่ก่อนแล้ว จึงว่าจ้างนายสุรพลและโอนเงินให้ใช้ระเบิดสร้างสถานการณ์ความวุ่นวาย แต่นายสุรพลได้มอบเงินให้แก่นายวิเชียรเพื่อให้ก่อเหตุแทนตน

ต่อมานายวิเชียรไม่ยอมก่อเหตุตามที่ตกลงไว้นางสุภาพรจึงได้มีการต่อว่านายสุรพลจนเขาออกจากกลุ่มไลน์นายสุรพลได้คืนเงินให้นางสุภาพรส่วนหนึ่ง โดยมีเอกสารการโอนเงินเข้าบัญชีจริงประกอบกับหลักฐานรูปภาพหน้าจอในไลน์ระหว่างนายสุรพลกับบุคคลไม่ทราบตัวตน ซึ่งนายสุรพลยอมรับว่าตนได้สนทนาเช่นว่านั้นจริง

เมื่อนายสุรพลถูกจับได้บอกกล่าวให้น.ส.ณัฐฐิดาทราบ และน.ส.ณัฐฐิดาได้บอกให้นางสุภาพรทราบต่อ แต่นางสุภาพรไม่เชื่อและกล่าวว่านายสุรพลโกหกเพื่อที่จะไม่ไปก่อเหตุตามที่ตกลงกันไว้

อัยการได้เอาเอกสารภาพถ่ายมาให้พยานดูและรับรอง โดยเป็นรูปภาพจำเลยที่5ซึ่งจำเลยที่3ลงลายมือชื่อรับรองว่ารู้จัก เอกสารรูปภาพจำเลยที่ 3และ1 ซึ่งจำเลยที่ 4 ลงลายมือชื่อรับรองว่ารู้จัก อีกทั้งหลักฐานภาพถ่ายลักษณะวัตถุระเบิดชนิด RGD-5 และหลักฐานภาพถ่ายแสดงการโอนเงินของจำเลยในคดีนี้

จากนั้นเจ้าหน้าที่ทหารพร้อมตำรวจได้เข้าค้นบ้านนางสุภาพรที่มุกดาหารพบระเบิดRGD-5จำนวน1ลูก และจำเลยที่2เป็นพยานในการเข้าค้นครั้งนี้ด้วยโดยการลงลายมือชื่อในบันทึกการตรวจค้น

ช่วงทนายจำเลยถามค้าน พล.ต.วิจารณ์เบิกความตอบทนายว่า ตัวพยานเป็นผู้ซักถามนายมหาหินและนายยุทธนา โดยการสอบสวนความผิดกรณีปาระเบิดศาลอาญาได้กระทำโดยหน่วยงานที่จัดตั้งโดยคสช.ซึ่งประกอบไปด้วยทหารและตำรวจ

นายมหาหินและนายยุทธนา มีการประชุมที่จ.ขอนแก่นเพื่อตระเตรียมก่อเหตุและจากบันทึกการซักถามจำเลยที่ 1ไม่ได้เข้าร่วมประชุม ส่วนการก่อเหตุ 100 จุดทั่วประเทศหรือไม่พยานไม่แน่ใจ และจำเลยที่ 1 เองไม่ได้กล่าวถึงเรื่องวางระเบิด100 จุดและพยานขอยืนยันว่าไม่ได้มีการขอรหัส LINE ของนางสุภาพร

เนื่องจากทนายความจำเลยยังมีประเด็นถามค้านพ.ต.วิจารณ์อีก ศาลจึงนัดสืบพยานปากนี้อีกครั้งวันที่ 31 ส.ค.-1 ก.ย. และพยานปากต่อไป 19 ก.ย.2559

 

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

ฝ่ายกฎหมาย คสช. พยานโจทก์คดีจ้างวานปาระเบิดศาลอาญา รับว่าเป็นผู้สอบสวนในชั้นกฎอัยการศึก

X