ศาลทหารตัดพยานจำเลย ‘ไพบูลย์-อุดมเดช’ อ้างไม่เกี่ยวกับคดี ฐนกร โพสต์ผังราชภักดิ์-กดไลก์-หมิ่นหมาฯ

ศาลทหารนัดตรวจพยานหลักฐานคดีของฐนกร จำเลยคดี 112 จากการถูกกล่าวหาว่ากดไลก์เพจและโพสต์เสียดสีสุนัขทรงเลี้ยง และข้อหา 116 จากการโพสต์แผนผังทุจริตสร้างอุทยานราชภักดิ์ ศาลให้ตัดพยาน พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร และพล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา อ้างว่าไม่เกี่ยวกับคดี หลังตรวจพยานหลักฐานเสร็จสิ้นศาลนัดสืบพยานปากแรก 23 ก.พ.ปีหน้า

14 พ.ย.2560 ศาลทหารมีนัดตรวจพยานหลักฐานคดีของนายฐนกร (สงวนนามสกุล) ที่ถูกอัยการทหารฟ้องฐานหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 จำนวน 2 กรรม จากการกดไลก์เพจที่มีพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 และข้อความไม่บังควร และโพสต์ข้อความเสียดสีสุนัขทรงเลี้ยงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ข้อหายุยงปลุกปั่น และยังถูกกล่าวหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 จากการโพสต์ผังทุจริตในโครงการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์

อัยการทหารซึ่งเป็นฝ่ายโจทก์แถลงนำพยานบุคคลเข้าสืบทั้งหมด 15 ปาก ส่วนทางด้านฝ่ายจำเลยแถลงจะนำพยานบุคคลเข้าสืบทั้งหมด 6 ปาก

ทั้งนี้ศาลได้ถามทนายความจำเลยว่าพยานจำเลยปากที่ 5 พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร และ พยานปากที่ 6 พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา มีความเกี่ยวข้องกับคดีอย่างไร ทนายความตอบศาลว่าเนื่องจากพล.อ.อุดมเดช เป็นผู้ที่เกี่ยวข้องกับโครงการสร้างอุทยานราชภักดิ์ และพล.อ.ไพบูลย์ก็เคยให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนว่าโครงการดังกล่าวมีการทุจริต จึงจะของนำพยานทั้งสองปากเข้าสืบเนื่องจากในฟ้องของอัยการทหารได้ฟ้องจำเลยในข้อหาตามมาตรา 116 จากการแชร์แผนผังผู้ที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตในโครงการสร้างอุทยานราชภักดิ์

ศาลกล่าวกับทนายความจำเลยว่าพยานทั้งสองปากไม่มีความเกี่ยวข้องกับคดีนี้ จะให้งดการนำพยานทั้งสองปากนี้เข้าสืบในศาล แต่ทนายความจำเลยแถลงค้านว่าฝ่ายจำเลยยังยืนยันว่าต้องการให้พยานมาเบิกความยืนยันว่าวัตถุพยานลำดับที่ 12-14 ที่เป็นวิดีโอการให้สัมภาษณ์ของพยานทั้งสองปากที่จำเลยอ้างมาในคดีนี้ พยานได้ให้สัมภาษณ์ตามที่ปรากฏในวิดีโอจริงหรือไม่เท่านั้น และทนายความยังแถลงต่อศาลเพิ่มเติมว่าคลิปดังกล่าวมีเนื้อหาเพียงส่วนเดียวเท่านั้น ต้องการให้พยานทั้งสองปากมาเบิกความ

ทนายความกล่าวต่ออีกว่า เคยมีคดีลักษณะเดียวกันนี้ที่อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญากรุงเทพใต้เคยมีคำสั่งไม่ฟ้องคดีในข้อหาตามมาตรา 116 จากการที่เคยมีผู้ต้องหาโพสต์เฟซบุ๊กเกี่ยวกับการทุจริตในโครงการราชภักดิ์ด้วยเนื่องจากถือว่าเป็นการแสดงความเห็นติชมโดยสุจริต (อ่านเกี่ยวกับคดีที่ทนายความอ้างถึงได้ ที่นี่)

ศาลได้ถามอัยการว่ามีความเห็นอย่างไร อัยการตอบศาลว่าวิดีโอการให้สัมภาษณ์ปรากฏเป็นข่าวจริง ทางฝ่ายอัยการเองก็รับในข้อเท็จจริงได้ว่าวิดีโอที่จำเลยอ้างมาในบัญชีพยานมีอยู่จริงตามที่ปรากฏเป็นข่าวได้

หลังทั้งสองฝ่ายตรวจพยานหลักฐานเสร็จสิ้นศาลได้อ่านกระบวนพิจารณาคดีว่าฝ่ายโจทก์มีพยานบุคคลที่จะนำสืบทั้งหมด 15 ปาก และโจทก์รับวัตถุพยานลำดับที่ 12-14 ของจำเลย และเมื่อโจทก์รับในข้อเท็จจริงแล้วว่าวัตถุพยานได้ปรากฏเป็นข่าวจริงจำเลยก็ไม่ติดในนำพยานปากที่ 5-6 เข้าสืบ ศาลจึงให้ตัดพยานทั้งสองปาก และโจทก์จะให้นำพยานปากพล.อ.วิจารณ์ จดแตง เข้าสืบในวันที่ 23 ก.พ.2561

ทั้งนี้ศาลได้ถามจำเลยว่าจะขอให้นายฐนกรดำเนินการลาสิกขาออกมาในระหว่างพิจารณาคดีได้หรือไม่เนื่องจากขณะนี้ได้ตกเป็นจำเลยแล้ว ซึ่งเป็นเรื่องความไม่เหมาะสมหากจะให้พระสงฆ์ต้องมาศาล ขอให้จำเลยไปปรึกษากับพระผู้ใหญ่ว่าทางวัดขัดข้องเรื่องที่จำเลยต้องมาศาลหรือไม่ทั้งที่เป็นพระสงฆ์อยู่หรือไม่ หากไม่ขัดข้องก็ไม่เป็นไร ศาลก็จะได้ชี้แจงได้หากปรากฏเป็นข่าว

เรื่องที่เกี่ยวข้อง
คดีกดไลค์-หมิ่นหมา คกก.วินิจฉัยชี้ขาดให้ขึ้นศาลทหาร – เลื่อนฟังคำพิพากษาคดีธารา 112

แม่ “ฐนกร” กังวลเจ้าหน้าที่ยัดข้อมูลเสี่ยงใส่คอมพิวเตอร์ หลังถูกตำรวจยึดเอาไว้

พ่อ “ฐนกร” เผยวินาทีรื้อค้นบ้าน เจ้าหน้าที่ใช้อำนาจตาม ม.44 ยึดโน้ตบุ๊กไปตรวจสอบด้วย

คดีหมิ่นสุนัขทรงเลี้ยงส่งต่อ คกก.ชี้ขาด ศาลทหาร-ศาลยุติธรรมให้ข้อหา 112 อยู่ในศาลทหาร แต่ข้อหา 116 เห็นแย้งกัน

 

X