ฟ้อง 9 คน แชร์เพจ “กูต้องได้ 100 ล้านฯ” ศาลไม่ให้ประกันตัว 5 ราย

วันที่ 5 พ.ย. 61 เวลา 10.00 น. ที่สำนักงานอัยการสูงสุด กอง 9 ถนนรัชดา อัยการสูงสุดมีคำสั่งฟ้องจำเลย 9 คน ในคดีแชร์โพสต์เฟสบุ๊คจากเพจ “กูต้องได้ 100 ล้านจากทักษิณแน่ๆ” สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ระหว่างเดือนมิถุนายน พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ได้ทยอยแจ้งข้อหาต่อผู้ต้องหาหลายราย โดยเป็นการระบุความผิดฐานนำข้อมูลอันเป็นเท็จที่กระทบความมั่นคงเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ฯ ตามมาตรา 14 (5) ของ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2560 (อ่านข่าวเรื่อง ปอท.แจ้งข้อหาคนแชร์เพจ “กูต้องได้ 100 ล้านฯ” เพิ่มอีก 1 ราย ก่อนปล่อยตัวกลับหลังแจ้งข้อหา)

สำหรับคดีนี้เป็นคดีที่เกี่ยวกับการใช้เสรีภาพในการแสดงออก เพื่อวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล โดยจำเลยกดแชร์โพสต์เรื่องยาเสพติด โดยมีเนื้อหาการโพสต์ว่า

“ยาเสพติดระบาดหนักในหลายชุมชน จนท.ทหารหลายพื้นที่ ทำงานเป็นคนดูแลความสงบให้แก่พวกขายยา (กล่าวลอยๆ) โดยทำงานร่วมกับตำรวจท้องที่ ลองดูสิ เยอะจริงๆ ยกตัวอย่างแถวบ่อนไก่ก็ตำรวจ-ทหารเป็นหูเป็นตาให้ผู้ค้าเองด้วย ป.ป.ส.มาสืบเองก็คงมีข้อมูลแล้ว แต่ก็ไม่ทำอะไร ประชาชนในชุมชนอยู่กันอย่างหวาดระแวง ลักเล็กขโมยน้อยเกิดขึ้นประจำ นี่หรือคือยุคที่ คสช.อ้างว่าสงบสุข แต่ยาเสพติดกลับทะลักเข้ามาทำลายอนาคตของประเทศ

ทหารนอกแถวมีมากมาย แต่ควบคุมให้มีวินัยไม่ได้
เพราะ คสช.เองก็มีอำนาจด้วยวิธีการที่ผิดๆ และขาดวินัย

น่าสงสัยต่ออีก ใครปล่อยให้ยาเสพติดทะลักเข้ามา 
ประโยชน์ไปตกที่ใคร เงินไปไหน อืม”

ในเอกสารคำฟ้องของฝ่ายโจทก์ระบุว่าข้อความข้างต้น

“ทำให้ประชาชนทั่วไปเข้าใจว่าการแพร่ระบาดของยาเสพติดอย่างหนักในหลายชุมชนในปัจจุบัน เกิดขึ้นจากการที่มีเจ้าหน้าที่ทหารที่ทำหน้าที่ดูแลรักษาความสงบในพื้นที่ต่าง ๆ ร่วมกับตำรวจในท้องที่ ทำหน้าที่เป็นหูเป็นตาให้กับผู้ค้ายาเสพติดเสียเอง จึงทำให้ยาเสพติดกลับทะลักเข้ามาทำลายอนาคตของประเทศ

หตุเพราะ คสช. เองก็มีอำนาจและวิธีการที่ผิด ๆ และขาดวินัย ซึ่งเป็นความเท็จเนื่องจากเจ้าหน้าที่ทหารมีหน้าที่รักษาความสงบในเขตพื้นที่และเจ้าหน้าที่ตำรวจในเขตท้องที่เป็นหน่วยงานที่มีหน้าที่ปราบปรามการกระทำผิดและดูแลความสงบเรียบร้อยของประชาชน จึงไม่มีทางเป็นไปได้ที่เจ้าหหน้าที่ทหารและตำรวจจะร่วมมือกันเป็นหูเป็นตาให้กับผู้ค้ายาเสพติดเสียเอง”

สำหรับพฤติการณ์การจับกุมจำเลย นางคนึงนิตย์ 1 ในจำเลย เปิดเผยว่า ได้รับหมายเรียกตำรวจท่องเที่ยวที่มาพบเธอที่บ้าน ในขณะนั้น ตำรวจแจ้งว่าเธอถูกเรียกในฐานะพยานเท่านั้นไม่ใช่ผู้ต้องหา ถ้าไป ปอท. จะกันเป็นพยาน พร้อมกับนำภาพข้อความในเพจของกูต้องได้ 100 ล้านฯ ให้เธอดู โพสต์ดังกล่าวถูกโพสต์เมื่อวันที่ 10 เม.ย. 61 และระบุว่าเพจดังกล่าวนี้มีนายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ เป็นแอดมินเพจ “กูต้องได้ 100 ล้านจากทักษิณแน่ ๆ”

การแถลงข่าวกวาดจับผู้แชร์ข้อความ ที่ กองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) เมื่อเดือนมิถุนายน 2561

หลังจากอัยการสูงสุดมีคำสั่งฟ้องจำเลยได้เดินทางมาที่ศาลอาญา ต่อมาเวลา 12.30 น. ศาลได้อ่านคำฟ้องต่อจำเลย และถามคำให้การจำเลย โดยมีจำเลยให้การรับสารภาพ 5 คน และให้การปฏิเสธ 4 คน

ในเวลาต่อมาจำเลยทั้งหมดได้มีการยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว โดยแบ่งการยื่นประกันตัวออกเป็น 3 รูปแบบ ได้แก่ 1. มีจำเลยงวางหลักทรัพย์ประกันเป็นเงินจำนวน 100,000 บาท 3 คน โดยศาลอนุญาตให้ประกันตัว และมีคำสั่งให้ไปพบพนักงานคุมประพฤติในวันพรุ่งนี้ (6 พ.ย. 61)

2. มีจำเลย 1 คน วางหลักทรัพย์เป็นโฉนดที่ดิน ประเมินราคา 100,000 บาท ศาลอนุญาตให้ประกันตัว โดยมีคำสั่งให้จำเลยทั้ง 4 คนมาฟังคำพิพากษาวันที่ 12 ธ.ค. 61

3. มีจำเลยที่ยื่นประกันตัวอีก 5 คน ยื่นประกันตัวโดยไม่วางหลักประกัน โดยยินยอมให้ติดตั้งอุปกรณ์ติดตามตัว (มีลักษณะเป็นกำไลข้อเท้า EM ‘Electronic Monitoring Center’) ซึ่งในกลุ่มนี้มี 4 คนที่ให้การปฏิเสธและ 1 คน ให้การรับสารภาพ ศาลยังไม่มีคำสั่งให้อนุญาตให้ประกันตัวหรือไม่ แต่มีคำสั่งให้มาฟังการพิจารณาที่ศาลในวันพรุ่งนี้ (6 พ.ย. 61) สำหรับกระบวนการจะเป็นการเบิกตัวจำเลย มาสอบเพื่อถามความยินยอมในการติดอุปกรณ์ติดตามตัว  สำหรับวันนี้ โดยจำเลยทั้ง 5 คน ถูกคุมขังไว้ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครและทัณสถานหญิงกลาง

 

X