21 พ.ย. 2561 มูลนิธินิติธรรมสิ่งแวดล้อม (EnLAW), ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน, สมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน (HRLA), โครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน (iLaw) และสถาบันวิจัยสังคม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ร่วมกันจัดเวทีเสวนา “สะท้อนปัญหาการตีความบังคับใช้กฎหมายการชุมนุมสาธารณะกับการจำกัดเสรีภาพของประชาชน” ที่ห้องประชุม Auditorium เดอะคอนเน็คชั่น สถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT ลาดพร้าว
ในเวทีเสวนามีการกล่าวถึงประเด็นปัญหาการตีความและการบังคับใช้ พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.2558 ของเจ้าหน้าที่รัฐ ตั้งแต่มีการประกาศใช้ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา มีการสะท้อนปัญหาจากประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการใช้สิทธิในการชุมนุม และได้มีข้อเสนอต่อปัญหาการตีความกฎหมายดังกล่าว (สามารถดูบันทึกการเสวนาได้ ที่นี่)
ภายหลังเสร็จสิ้นวงเสวนาได้มีการอ่านแถลงการณ์เรียกร้องให้ทบทวนกฎหมายดังกล่าว โดยเห็นว่าหากกฎหมายดังกล่าวไม่ได้คุ้มครองและส่งเสริมการใช้สิทธิเสรีภาพของประชาชน ก็ควรจะถูกยกเลิกไป และหากจะมีการเขียนขึ้นใหม่ประชาชนต้องมีส่วนร่วมในการจัดทำกฎหมาย อีกทั้งยังเรียกร้องให้ยกเลิกคำสั่งหัวหน้าคสช. ฉบับที่ 3/2558 โดยเร็ว เนื่องจากเป็นคำสั่งที่ละเมิดสิทธิเสรีภาพของประชาชน
ในแถลงการณ์ฉบับนี้ มีเครือข่ายภาคประชาชนและองค์กรสิทธิมนุษยชนรวม 52 องค์กร และบุคคลอีก 33 คน ร่วมลงนามด้วย โดยเนื้อหาแถลงการณ์ทั้งหมดมีดังนี้
“ยกเลิก พ.ร.บ.การชุมนุมฯ ทิ้งไป หากมิได้คุ้มครองเสรีภาพการชุมนุมของประชาชนอย่างแท้จริง”ตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา พระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.2558 ได้สร้างอุปสรรคภาระและถูกใช้เป็นเครื่องมือปิดกั้นขัดขวางการใช้เสรีภาพการชุมนุมของประชาชนที่ออกมาปกป้องเรียกร้องสิทธิของตนเอง ของชุมชน หรือการเปลี่ยนแปลงในประเด็นสาธารณะ ทำให้การรวมตัวรวมกลุ่มชุมนุมสาธารณะตามวิถีทางแห่งระบอบประชาธิปไตยเป็นไปได้อย่างยากลำบาก เต็มไปด้วยความเสี่ยงและความหวาดกลัว ความคลุมเครือไม่ชัดเจนของตัวบทกฎหมายทั้งบทนิยามและเงื่อนไขการชุมนุม เปิดโอกาสให้เจ้าหน้าที่เลือกใช้ดุลพินิจตีความบังคับใช้ได้ตามอำเภอใจ ทำให้ประชาชนไม่อาจรับรู้ขอบเขตอำนาจของกฎหมายที่แน่ชัดและต้องตกอยู่ในความเสี่ยงที่จะถูกห้ามชุมนุมและถูกดำเนินคดีได้โดยตลอด โดยเฉพาะขอบเขตนิยาม “การชุมนุมสาธารณะ” ที่ถูกตีความจนครอบคลุมกิจกรรมการเคลื่อนไหวของภาคประชาชนอย่างกว้างขวาง หลายกรณีจึงต้องถูกยุติการทำกิจกรรมและถูกดำเนินคดีเพียงเพราะไม่ได้แจ้งการชุมนุมล่วงหน้าและไม่ปฏิบัติตาม พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะฯ แม้แต่ในกรณีที่ประชาชนผู้ชุมนุมได้พยายามปฏิบัติตาม พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะฯ โดยถูกต้องครบถ้วนแล้ว เจ้าหน้าที่กลับสร้างเงื่อนไขข้อจำกัดการชุมนุมขึ้นมาเป็นอุปสรรคเพิ่มเติม เกินกว่าที่กฎหมายให้อำนาจไว้และมิได้เป็นไปเพื่อความจำเป็นในการรักษาความสงบเรียบร้อย การรักษาความปลอดภัยของสาธารณะ การจราจร และอำนวยความสะดวกแก่การชุมนุมตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย โดยเฉพาะการกำหนดเงื่อนไขควบคุมเนื้อหาและรูปแบบการแสดงออกต่อสาธารณะของผู้ชุมนุมโดยไม่มีอำนาจตามกฎหมาย รวมถึงการอ้างเอาคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 3/2558 เรื่องชุมนุมทางการเมืองที่เป็นอำนาจทับซ้อนกับ พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะฯ มากำหนดเป็นข้อห้ามหรือความผิดไว้อย่างคลุมเครือ ล้วนแล้วแต่เป็นการละเมิด คุกคาม และสร้างความหวาดกลัวในการใช้เสรีภาพการชุมนุมของประชาชน เสรีภาพการชุมนุมเป็นเสรีภาพขั้นพื้นฐานตามรัฐธรรมนูญในสังคมประชาธิปไตย เป็นเครื่องมือที่ช่วย ส่งเสียงของประชาชนที่ไม่ถูกรับฟังให้ดังไปถึงผู้มีอำนาจ เป็นการสร้างพลังและอำนาจต่อรองเพื่อให้รัฐหันมาใส่ใจ ในความเดือนร้อนของประชาชน หรือปัญหาสาธารณะและความไม่เป็นธรรมต่างๆ ที่เกิดขึ้นในสังคม เสรีภาพการชุมนุมจึงมีคุณค่าอย่างสำคัญในการร่วมสร้างวัฒนธรรมประชาธิปไตย และช่วยเพิ่มพื้นที่การมีส่วนร่วมของประชาชนในทางการเมืองและนโยบายสาธารณะให้มากขึ้น การตราและบังคับใช้กฎหมายของรัฐจึงต้องมิใช่เพื่อบั่นทอนทำให้เสรีภาพการชุมนุมของประชาชนและกระบวนการประชาธิปไตยทางตรงอ่อนแอลง แต่เมื่อบทเรียนได้พิสูจน์แล้วว่า พระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.2558 มิได้ทำหน้าที่เพื่อรับรอง คุ้มครองและส่งเสริมการใช้เสรีภาพการชุมนุมโดยสงบปราศจากอาวุธของประชาชน จึงสมควรถูกทบทวนยกเลิกไป และหากจะมีขึ้นใหม่ต้องเป็นกฎหมายที่สอดคล้องกับวิถีทางแห่งระบอบประชาธิปไตย และจัดทำขึ้นโดยผ่านการ มีส่วนร่วมของประชาชน เช่น กำหนดให้เฉพาะการชุมนุมที่มีผู้เข้าร่วมจำนวนมากที่ต้องถูกควบคุมตามกฎหมาย การไม่แจ้งการชุมนุมไม่ควรมีความผิดทางอาญาและเป็นเหตุให้การชุมนุมไม่ชอบด้วยกฎหมาย การจำกัดเสรีภาพ การชุมนุมทำได้เฉพาะมีเหตุจำเป็นต่อสาธารณชน และต้องมีความรับผิดของเจ้าหน้าที่รัฐที่ขัดขวางเสรีภาพการชุมนุมโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย เป็นต้น และคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 3/2558 อันเป็นคำสั่งที่ละเมิดต่อสิทธิเสรีภาพของประชาชน โดยเฉพาะเสรีภาพการชุมนุมและการแสดงความคิดเห็น ต้องถูกทบทวนยกเลิกโดยเร็วเช่นกัน 21 พฤศจิกายน 2561 รายนามองค์กรร่วมเรียกร้อง มูลนิธินิติธรรมสิ่งแวดล้อม (EnLAW) |